คำๆนี้หลายท่านคงจะเคยได้ยินมาบ้างแล้วนะครับ
วันนี้ผมจะมายืนยันและขยายความคำๆนี้อีกครั้งนะครับ หลายคนมีความเชื่อว่าตัวเองต้องขยันและเมื่อเราขยันแล้วเราจะต้องประสบกับความสำเร็จในชีวิตได้อย่างแน่นอน
ซึ่งความเชื่อดังกล่าวอาจจะไม่จริงเสมอไป
และการที่คุณจะประสบกับความสำเร็จในชีวิตได้นั้นจะต้องมีหลายๆอย่างที่มาสอดประสานกันนะครับ
อันดับแรกคุณจะต้องสามารถประเมินและเข้าใจได้ก่อนนะครับว่างานที่คุณทำอยู่นั้นอนาคตห้าปีสิบหากว่าคุณยังคงทำงานนี้อยู่คุณจะเป็นยังไงต่อไป
โดยการประเมินว่างานที่คุณทำอยู่จะทำให้คุณเป็นยังไงได้บ้างในอนาคตอีกสิบปีนั้นก็คือให้คุณดูรุ่นพี่หรือว่าคนที่อยู่ในที่ทำงานของคุณที่เขาเข้ามาทำงานก่อนคุณสักห้าปีว่าเขามีรูปแบบชีวิต
หรือว่าคุณภาพชีวิตเป็นยังไงบ้าง ดีกว่าที่คุณเป็นอยู่ตอนนี้หรือเปล่า ยังมีหนี้สินอยู่ไหม
เขายังบ่นเรื่องของการใช้ชีวิตให้กับคุณได้ฟังอยู่เรื่อยๆหรือเปล่า
ถ้าใช้แล้วละก็คุณก็เตรียมตัวที่จะเป็นเหมือนอย่างเขาได้เลยครับ
เพราะว่าคุณไม่มีทางที่จะแตกต่างไปจากสิ่งที่เพื่อนของคุณเป็นได้หรอกครับ
หากประเมินแล้วว่าอีกห้าปีข้างหน้าชีวิตของเราก็คงยังไม่ดีขึ้นแน่ๆ
ผมแนะนำให้คุณเปลี่ยนงานครับ แต่ถ้าคุณยังไม่พร้อมเพราะว่าคุณยังมีภาระอยู่ละก็
คุณก็อาจจะเริ่มจากการที่ทำงานนอกเวลาก่อน
คุณจะต้องศึกษาก่อนว่างานแบบไหนที่เหมาะกับคุณและที่สำคัญที่สุดแล้วละก็จะต้องทำให้คุณมีรายได้ที่มาพอด้วย
จากนั้นเมื่อคุณเจองานหรือว่าเครื่องมือที่จะทำให้คุณได้เงินเยอะแล้วละก็คุณก็ต้องทุ่มเทกับมันจนคุณเกิดความชำนาญและก็รายได้ที่มากพอแล้วคุณจึงออกไปทำงานนั้นอย่างจริงจังและยึดเป็นงานหลักก็ยังไม่สายนะครับ
ทุกอย่างมันมีเหตุและผลและก็ที่มาที่ไปหมดเพียงแค่เรากล้าที่จะยอมรับมัน
เพราะว่าสำหรับบางคนแล้วขั้นตอนที่ยากที่สุดแล้วก็คือการยอมรับตัวเองว่างานที่ตัวเองทำอยู่นี้มันไม่ตอบโจทย์ให้กับตัวของเราเองได้นั้นเอง
เมื่อเราสามารถที่จะยอมรับข้อบกพร่องและยอมรับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นได้แล้วละก็เราก็สามารถที่จะวางแผนเพื่อพัฒนาตัวเองและหาช่องทางใหม่ๆที่จะเพิ่มรายได้ให้กับเราได้
และเมื่อเราขยันในช่องทางที่ถูกต้องแล้วละก็
บางทีเราทำปีเดียวก็สามารถที่จะทำได้ครับ เพราะเครื่องมือที่ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ครับต่อให้เราขยันแค่ไหน
ก็เหมือนกับเราเอาช้อนไปขุดดินต่อให้ขุดเป็นปีๆก็คงไม่สู้ใช้รถแม๊คโคขุดแค่ครั้งเดียว
#s7content
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น