เกิดจนอย่าตายจน

        คนเราทุกคนไม่สามารถที่จะเลือกเกิดได้ว่าอยากที่จะเกิดมาในครอบครัวหรือว่าสังคมแบบไหน ดังนั้นทุกคนจึงมีพื้นฐานครอบครัวที่แตกต่างกันออกไป ทั้งเรื่องของฐานะทางการเงิน หรือการอบรมเลี้ยงดู ทำให้บ้างครั้งเรามักจะเห็นพฤติกรรมแปลกๆจากคนบางคนที่เราดูแล้วอาจจะไม่เข้าใจว่าเขานั้นทำอย่างนั้นไปเพื่ออะไรกันแน่ แต่ความจริงแล้วสิ่งที่เขาทำอาจจะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่เราทำในสถานะการณ์เดียวกันก็เป็นไปได้ การตกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่จนเงินทองอาจจะไม่เลวร้ายเท่าการตกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่จนความคิดในการพัฒนาตนเอง การเกิดมาจนนั้นไม่ใช่ความผิดของเราเพราะว่าเรานั้นไม่สามารถที่จะเลือกเกิดได้ แต่เมื่อเราเกิดมาแล้วเรารู้ว่าจะต้องทำอย่างไรเพื่อจะให้ชีวิตนั้นดีขึ้นแต่ว่าเราก็ไม่ยอมที่จะลงมือทำสักทีนั้นอาจจะพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำเลยว่าเป็นความผิดของตัวเราเอง เพราะเมื่อเรารู้แล้วว่าจะทำอย่างไรในการพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้นแต่เราไม่ทำสุดท้ายแล้วชีวิตของเรานั้นก็จะต้องติดอยู่ตรงจุดเดิมนั้นเอง

        โดยเฉพาะในทุกวันนี้ที่การค้นหาความรู้ในเรื่องต่างๆนั้นสามารถทำได้อย่างง่ายดาย โดยผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่มีผู้คนมากมายนำความรู้มาเผยแพร่เอาไว้ ซึ่งหากว่าเราตั้งใจศึกษาเรียนรู้พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องแล้วละก็ๆจะทำให้เรานั้นมีความรู้มากพอที่จะลงมือทำให้ชีวิตของตัวเองนั้นดีขึ้นได้อย่างแน่นอน หากวันนี้คุณเกิดมาจนอย่ามัวแต่โทษโชคชะตาเพราะมันเป็นเรื่องที่แก้ไขไม่ได้แล้วแต่ให้คุณนั้นวางแผนในการพัฒนาชีวิตของตัวเองนั้นให้ดีขึ้นจะดีกว่า โอกาสในการพัฒนาตัวเองที่มีมากขึ้นในปัจจุบันก็มาพร้อมกับคู่แข่งที่มากขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน หากวันนี้คุณพึ่งสะดุ้งที่จะตื่นรู้แล้วละก็คุณมองไปรอบๆตัวก็จะพบเจอกับคนอีกกลุ่มหนึ่งที่กำลังพัฒนาตัวเองเพื่อให้หลุดพ้นจากการตกอยู่ในหลุมของความอยากจน และคุณอาจจะรู้สึกว่าตัวเองนั้นรู้สึกช้าไป แต่ความเป็นจริงแล้ว หากว่าคุณรู้สึกแบบนี้นั้นเป็นโชคดีของคุณแล้วเพราะว่าต่อๆไปคุณนั้นจะไม่มีทางกลับไปเป็นแบบเดิมอีกแล้วชีวิตของคุณจะมุ่งหน้าไปหาแต่ความสำเร็จ ซึ่งก็ต้องยอมรับแบบตรงๆเลยว่ามันก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ง่ายดาย แต่ในทางกลับกันก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ยากลำบากอะไรหนักหนา ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดในยุคนี้นั้นก็คือเรื่องของการมีเครื่องมือที่ดีในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตัวเองนั้นเอง ซึ่งหากเจอเครื่องมือดีๆที่สามารถผ่อนแรงในการก้าวไปสู่ชีวิตที่มั่งคั่งได้แล้วละก็นั้นก็ถือเป็นอีกเรื่องที่โชคดีสำหรับคุณ และถือว่าคุณเป็นคนที่โชคดีมากๆด้วยเช่นเดียวกัน

        ธุรกิจเครือข่ายหรือว่าธุรกิจขายตรง ชื่อนี้ใครได้ยินก็อาจจะไม่ค่อยชอบเท่าไร แต่ความเป็นจริงแล้วธุรกิจนี้หากทำให้ถูกต้องถูกวิธีการแล้วละก็จะสามารถสร้างรายได้ให้กับเราอย่างมหาศาลเลยทีเดียว โดยเฉพาะหากเราได้มีโอกาสไปอยู่ในบริษัทที่มีความแข็งแกร่งทางด้านการเงินและมีสินค้าที่มีคุณภาพแล้วละก็ๆจะทำให้เราก้าวไปสู้จุดหมายแห่งคำว่าอิสระทางการเงินได้อย่างง่ายดายนั้นเอง และอาจจะเป็นโอกาสที่ดีที่สุด เมื่อบริษัท jafra thailand ซึ่งเป็นสาขาของบริษัท jafra ในประเทศไทยได้มีการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในประเทศไทยในเดือนมกราคมที่จะถึงนี้นี่เอง  ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจมากๆนอกจากเรื่องของผลิตภัณฑ์ที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้มาจากนมผึ้งซึ่งนำไปผ่านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์เพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุดแล้วละก็ๆ น่าจะเป็นเรื่องของแผนรายได้ที่มีการพัฒนาขึ้นมาใหม่เพื่อให้นักธุรกิจหรือที่เรียกว่าปรึกษานั้น ได้มีโอกาสในการสร้างรายได้อย่างไม่สิ้นสุดนั้นเอง  จาฟรา นั้นเป็นบริษัทที่ก่อตั้งมาแล้วกว่า 63 ปีทำให้เชื่อมั่นได้ว่าบริษัทจะมีความมั่นคงอย่างแน่นอน และการที่ jafra thailand เป็นประเทศแรกที่ได้มีการนำแผนการตลาดแบบใหม่มาใช้นั้นก็ทำให้เป็นโอกาสที่ดีของเราที่จะได้เป็นคนต้นที่อยู่ในผังการทำงาน เพราะหากว่านักธุรกิจเดิมของ jafra ที่มีอยู่แล้วกว่า 600,000 คนอยากที่จะมารับรายได้ในแผนการตลาดแบบใหม่แล้วละก็ๆจะต้องทำการมาสมัครใหม่ซึ่งก็หมายความว่าจะต้องมาอยู่ใต้ผังองค์กรของเรานั้นเอง

รู้เท่าทันในวันที่ใครก็เป็นสื่อได้ด้วยตัวเอง

          การสื่อสารของผู้คนในยุคนี้ได้เปลี่ยนจากช่วงเวลาเมื่อสัก 20 ปีก่อนไปโดยสิ้นเชิง ซึ่งยุคนั้นเรายังคงติดตามข่าวสารต่าง ๆ ผ่านทางโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ หรือว่าวิทยุ ส่วนอินเตอร์เน็ตนั้นยังห่างไกลในการเป็นสื่อหลักที่เผยแพร่ในวงกว้าง อย่างมากมีสัก 3 จาก 20 คนที่สามารถใช้โปรแกรม Pirch 98 เป็นก็ถือว่าเยี่ยมมากแล้ว แต่ในยุคนี้ผู้คนเข้าถึงสื่อได้ง่ายมาก แม้แต่เรื่องของการแทงบอลออนไลน์เองก็ตาม เพียงแค่มีโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียวเท่านั้น

           ในยุคนี้ผู้คนสามารถทำหน้าที่เป็นสื่อมวลชนได้ด้วยตัวเอง เพียงแค่พิมพ์ข้อความที่อยากจะสื่อสารและโพสต์ลงไปบนโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะทางเฟสบุ๊คหรือไอจี ยิ่งเป็นคนที่มียอดติดตามมาก ข่าวสารก็ยิ่งแพร่สะพัดเป็นวงกว้างได้อย่างรวดเร็วขึ้น อีกทั้งผู้คนสามารถแชร์ข้อมูลต่อ ๆ กันได้ทันที ซึ่งบางครั้งมันก็เป็นประโยชน์ แต่บางครั้งมันก็เป็นผลในทางลบ

          หากเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงและเป็นผลดีคงไม่ใช่ปัญหานัก แต่ถ้าเรื่องนั้นเป็นไม่ได้เกิดขึ้นเลย แถมยังส่งผลกระทบในด้านลบ แน่นอนว่าย่อมเกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา อย่างเช่นข่าวการเสียชีวิตของคนดัง ข่าวอาชญากรรมที่มีการชี้นำคนร้าย ทั้งที่พยานหลักฐานยังไม่แน่ชัด และอีกหลาย ๆ เรื่อง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นผลเสีย

          โดยเฉพาะข่าวอาชญากรรมอย่างเช่นมีเหตุฆ่ากันตายเกิดขึ้น เป็นอาชญากรรมรุนแรงที่สะเทือนขวัญผู้คนในสังคม แต่หลังจากนั้นไม่นานก็มีการเผยถึงผู้ต้องสงสัย บ่งบอกรูปร่างลักษณะใบหน้าพร้อม และมีการแชร์ข้อมูลนี้ออกไปแล้วก็ระบุซ้ำด้วยว่าเป็นผู้ร้าย ทั้งที่ยังไม่มีอะไรที่บ่งชี้ชัดเจน จะเกิดอะไรขึ้นหากว่าผู้ต้องสงสัยคนนั้นพ้นสภาพจากข้อกล่าวหา แน่นอนว่าคนในสังคมเกินกว่าครึ่งไม่ได้มารับผิดชอบอะไรกับเรื่องนี้ แต่คนผู้นั้นถูกตีตราว่าเป็นผู้ร้ายไปทั้งชีวิตแล้ว

          การรู้เท่าทันสื่อในที่นี้ นอกจากจะเป็นเรื่องการแชร์ข้อมูลแล้ว เรื่องของการเชื่อข้อมูลก็สำคัญ ข่าวสารต่าง ๆ ที่สำคัญและส่งผลกระทบต่อตัวเราและคนรอบข้าง ควรจะหาแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือให้ได้ 3 แหล่งขึ้นไป เพื่อเปรียบเทียบข้อมูล และตอกย้ำความถูกต้องของข่าวสาร นั่นเป็นสิ่งสำคัญในการเปิดรับสื่อในยุคที่ใคร ๆ ก็สามารถเป็นสื่อได้

เราควรเลือกรับสื่ออย่างไร

        ปัจจุบันอินเตอร์เน็ตเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของเราแบบเต็มรูปแบบแล้ว หากวันใดวันหนึ่งเราขาดการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตไปเราคงจะกะวนกะวายใจน่าดู เพราะเราเคยชินกับการมีอินเตอร์เน็ตมากกว่าการไม่มีอินเตอร์เน็ตนั้นเอง ซึ่งการที่เราสามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้โดยง่ายนั้นก็มีทั้งข้อดีและก็ข้อเสีย ข้อดีก็คือเราสะดวกสบายขึ้นในหลายๆเรื่อยตามการพัฒนาขึ้นของระบบอินเตอร์เน็ต สมัยก่อนหากเราคิดถึงอินเตอร์เน็ตนั้นเราก็จะคิดถึงเรื่องของการติดตามข่าวสารต่างๆหรือการหาความรู้ที่เริ่มมีคนนำมาแชร์บนโลกอินเตอร์เน็ตมากยิ่งขึ้น  NAX

        ถึง ณ ตอนนี้ข้อมูลที่อยู่บนอินเตอร์เน็ตนั้นมีมากมายจนนับไม่ถ้วน ขนาดที่ว่าเราดูตลอดชีวิตของเราโดยที่เราไม่ทำอะไรเลยดูแต่ข้อมูลข่าวสารจากอินเตอร์เน็ตอย่างเดียวก็ดูไม่หมดแล้ว ดังนั้นทักษะที่เรารวมถึงลูกหลานของเราจะต้องมีในอนาคตนั้นไม่ใช่ความสามารถในการเข้าถึงแหล่งของข้อมูลบนอินเตอร์เน็ตอีกต่อไป เพราะว่าทุกวันนี้ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ใดก็แล้วแต่เราก็สามารถที่จะเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้แต่ว่าทักษะที่จะต้องมีในยุคต่อๆไปนั้นก็คือเรื่องของการคัดกรองข้อมูลที่เราจะรับเข้ามา ซึ่งเหตุผลก็มีด้วยกันหลายประการอย่างเช่นปัจจุบันผู้สร้างเนื้อหานั้นมีความรู้ความสามารถมากขึ้นในเรื่องของการดึงดูดความสนใจของผู้คนให้ไปสนใจเนื้อหาที่พวกเขานั้นสร้างขึ้นมาและก็อยู่กับมันให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้นั้นเอง ถ้าเราไม่มีทักษะในการคัดกรองข้อมูลที่มีประโยชน์กับเราแล้วละก็เราก็จะใช้เวลาไปกับสื่อนั้นๆเป็นจำนวนมากซึ่งสื่อบางสื่อเราก็ไม่สามารถที่จะเอามาเป็นประโยชน์กับชีวิตประจำวันของเราได้ อย่างเช่น หนังที่มีเนื้อหาตบตีแย่งชิงกัน ซึ่งหากเป็นเด็กดูและไม่มีความสามารถในการแยกแยะถูกผิดก็จะยิ่งเกิดผลเสียขึ้นมาอีกมากเพราะว่าพวกเขานั้นจะจดจำเอามาใช้ในชีวิตประจำวันของพวกเขาเอง หรือการเสียเวลาไปกับการเล่นเกมส์ที่มากจนเกิดไปเราก็จะไม่มีเวลาเหลือที่จะเอาไปทำในสิ่งที่มันมีประโยชน์มากกว่า ดังนั้นก่อนที่เราจะเลือกรับสื่อใดๆเราควรคิดให้ดีก่อนว่ามันมีประโยชน์กับเราหรือไม่ ถ้าไม่มีก็ควรที่รับสื่อประเภทนั้นแบบนานๆค่อยรับที่เพื่อความบันเทิงในชีวิตเป็นต้น  NAX

        ในยุคนี้การค้นหาหรือว่าแสวงหาความรู้นั้นเป็นเรื่องที่สามารถทำได้อย่างไม่ยากเย็นนักเพราะว่าเรามีวิธีในการแสวงหาความรู้ได้อย่างมากมายแต่เรื่องที่จะต้องมีการเพิ่มทักษะให้กับคนในรุ่นต่อๆไปนั้นก็คือเรื่องของการคัดแยกหรือว่าคัดกรองสิ่งที่เรานั้นจะรับเข้ามาในชีวิตประจำวันของเรานั้นเอง เพราะถ้าเราเสียเวลากับเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากจนเกินไปเราก็จะไม่สามารถที่จะทำอย่างอื่นที่มีประโยชน์มากกว่าได้นั้นเอง  NAX

การลดสิ่งที่ไม่จำเป็น

        ทุกวันนี้โลกของเราเต็มไปด้วยข้อมูลและสิ่งของต่างๆ ไม่ว่าเราจะสนใจไปทางไหนก็จะมีข้อมูลความรู้และกลุ่มคนที่รอที่จะให้ข้อมูลเราอยู่เสมอๆ ยกตัวอย่างสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ เขาจะมีการเก็บข้อมูลต่างๆของเราเอาไว้เป็นรายบุคคลเลยเวลาที่เราเข้าไปในเว็บของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็น เฟสบุ๊ค กูเกิล หรือว่า ยูทูบ เราจะพบว่ามีข้อมูลหรือว่าสินค้าที่เราใจนั้นแสดงให้เราเห็นตลอดเวลาเพื่อดึงความสนใจของเราให้ใช้เวลาในเว็บของพวกเขาให้ได้มากที่สุด หรือว่าให้สุดท้ายจบลงด้วยการซื้อสินค้าหรือว่าบริการของพวกเขา   autorich

        ที่กล้าพูดอย่างนี้เพราะว่าผมเคยเป็นและทุกวันนี้ก็ยังคงเป็นอยู่ นั้นก็คือเรากะว่าจะเข้าไปหาข้อมูลความรู้สักหน่อยแต่ว่าวิดีโอแนะนำกลับแสดงเรื่องที่เราสนใจอยู่เราคลิ๊กเข้าไปดูสุดท้ายเสียเวลาหลายชั่วโมงเพื่อดูข้อมูลที่เราไม่ได้สนใจตั้งแต่แรก ซึ่งเวลาที่เราเสียไปจะมากจะน้อยก็ขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจของเราในวันนั้นด้วย อย่างเช่นวันนั้นจิตใจของเราแย่มากๆ เราก็จะเสียเวลาไปกับเรื่องที่ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์มากหน่อย แต่ถ้าวันไหนที่เรานั้นมีงานอื่นที่ต้องทำหรือว่าจิตใจของเราแน่วแน่ในการพัฒนาตัวเองก็จะเสียเวลาน้อยหน่อย ผมก็ยังเคยคิดดูเล่นๆนะครับว่าขนาดเราก็อายุเยอะประมาณหนึ่งแล้วและก็เป็นคนที่ฝึกสมาธิอยู่เสมอแต่ก็ยังเสียเวลาไปกับเรื่องเล่านี้อยู่เรื่อย แล้วถ้าเป็นเด็กหรือเยาวชนที่ยังไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวมากเท่าไรแล้วละก็เขาจะเอาตัวรอดจากสื่อเหล่านี้ได้อย่างไร  autorich

        สมัยหนึ่งทักษะที่เราจะต้องสอนเด็กๆนั้นก็คือการเอาความรู้มาบอกกับเขาโดยตรงเพราะว่าความรู้นั้นมันเป็นเรื่องที่หายาก สมัยต่อมาเราต้องสอนให้เขาสมารถแสวงหาความรู้ด้วยตัวเองได้ เพราะว่าความรู้นั้นเริ่มมีมากพอสมควร แต่ว่ายุค ณ ปัจจุบันนั้นเราจะต้องสอนให้เด็กนั้นมีความอดทนอดกลั้นต่อข้อมูลที่ไม่เป็นประโยชน์ต่างๆ เพราะว่าหากเสียเวลาไปกับเรื่องที่ไม่มีสาระแล้วละก็เขาก็จะเสียยาวไปเลยและจากการสังเกตุเนื้อหาที่ไม่มีสาระในปัจจุบันนั้นมักจะกินเวลาที่ยาวนานด้วยเหมือนกัน เพราะฉะนั้นในยุคต่อไป เด็กรุ่นใหม่จะแบ่งออกเป็นสองส่วนด้วยกันนั้นก็คือคนที่เก่งมากๆเพราะว่าเขานั้นสามารถแสวงหาความรู้ได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นทุกที่ทุกเวลาก็เลยกลายมาเป็นห้องเรียนของเขานั้นเอง และจะมีอีกพวกที่ไม่มีความรู้ความสามารถอะไรติดตัวมากพอที่จะสามารถออกไปทำงานได้เลย เพราะว่าในช่วงวัยเด็กซึ่งเป็นช่วงที่พวกเขาจะต้องเรียนรู้เนื้อหาต่างๆ เขากลับเสียเวลาไปกับสิ่งที่มันไม่ได้ก่อนให้เกิดประโยชน์ใดๆเลย  autorich

#S7Content

พอเถอะเรื่องอีเปรี้ยว

        เปิดอ่านเฟสบุ๊คมีความคิดเห็นหนึ่งโผล่ขึ้นมาประมาณว่าทุกคนสนใจข่าวอีเปรี้ยวจนติดตามกันแบบไม่หลับไม่นอน แล้วชีวิตเราจะได้อะไรขึ้นมาบ้าง  ความรู้สึกแรกที่ได้อ่านประโยชน์นี้ก็คือเหมือนกับนั่งอยู่บนเก้าอี้แล้วมีคนมาเตะที่กกหูตกลงไปจากเก้าอี้ยังไงยังงั้น ซึ่งผมก็ต้องขอขอบคุณโพสนี้มากที่ดึงสติรวมถึงคนไทยคนอื่นๆกลับมาได้บ้างไม่มาก็น้อย  giving forward

        ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ตอนแรกไม่ได้สนใจกับข่าวนี้เลยแม่แต่น้อย แต่เมื่อเรื่องราวต่างๆเริ่มซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ ก็เผลอไปติดตามทุกการเคลือนไหวเลย ซึ่งหากว่าเป็นจริงอย่างผู้ต้องหาบอกนั้นก็คือตอนแรกไม่ได้ตั้งใจที่จะฆ่าแค่จะเอาตัวไปตีสั่งสอนเท่านั้นเอง แต่ว่าผู้ตายเกิดท้าทายขึ้นมาว่า ฆ่าให้ตายนะถ้าฆ่าไม่ตาย มึงจะต้องตาย ทำให้เปรี้ยมลงมือบีบคอจนตาย มันก็ได้ขอคิดจากตรงนี้นิดหนึ่งตรงที่ว่าบางทีความโกรธมันก็นำพาเราไปไกลกว่าที่เรานั้นได้คิดไว้ซึ่งผมก็เอาเรื่องนี้มาสอนเด็กๆว่าอย่าพยายามให้ตัวเองต้องเข้าไปอยู่ในสถานะการณ์แบบนั้นตั้งแต่แรก เพราะเมื่อเราเข้าไปแล้วเราอาจจะทำอีกอย่างที่เราคิดว่าเราจะทำไม่ได้หรือว่าไม่กล้าทำก็ได้ ก็อย่างกรณีของเปรี้ยวตอนแรกกะอุ้มไปตีสังสอนแต่ก็ไม่ได้คิดไว้ว่าจะโดนว่าเมื่อเจอหน้ากัน จึงทำให้เกิดเป็นข่าวดังในที่สุด เรื่องราวมันสับซ้อนทำให้เป็นทีสนใจของสังคมว่าเรื่องนี้จะจบลงยังไง ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในคนที่เกิดความรู้สึกสงสัย และตามติดข่าวตลอด ว่าหลบไปอยู่ที่ไหน โดนจับได้หรือยัง ส่งตัวมาให้ตำรวจที่ขอนแก่นหรือยัง โดยที่ลืมคิดไปว่าบางครั้งเราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องสงสัยหรือว่าสนใจขนาดนั้นก็ได้เพราะว่ามันก็ไม่ได้เกิดอะไรขึ้นกับเราเลยพาลแต่จะทำให้เรานั้นเครียดไปด้วย  giving forward

        สู้เราเอาเวลามาพัฒนาตัวเองเพื่อให้ได้มีชีวิตที่ดีขึ้นกว่านี้จะดีกว่า  เราควรที่จะสนใจคนที่ประสบกับความสำเร็จในชีวิตให้มากว่าเขาทำยังไหงเขาถึงสามารถขึ้นไปถึงจุดนั้นได้ดีกว่าเอาเวลาไปเสียกับการติดตามเรื่องของคนที่ทำร้ายคนอื่นและทำให้คนอื่นเดือนร้อนจะดีกว่า อีกเรื่องที่มีส่วนให้ข่าวนี้ออกแทบทุกช่องทางนั้นก็เพราะว่าสื่อเมื่อเห็นมีคนสนใจมากก็เล่นข่าวนี้แบบกัดไม่ปล่อยกันเลยทีเดียว จากบางครั้งเราก็ไม่ได้สรใจอะไรมาก สื่อก็นำเสนอจนเราอยากรู้อยากเห็นตามไปด้วยเลย ดังนั้นมันก็เกิดจากสองฝั่งนั้นก็คือทั้งฝั่งสื่อและฝั่งผู้รับสื่อด้วยเช่นกัน

#S7Content